Friday, July 18, 2014

มึงป่วยเพราะโง่.... โดย สมคิด ลวางกูร


เจอเภสัชกรคนหนึ่ง...หน้าตากวนตีนมาก...
อายุน้อยกว่าผม...แต่กวนตีนมากกว่าผม...

ซื้อยาแก้กรดไหลย้อนครับ...
เอาเกรดไหน...มี 3 เกรด...ถูก...กลาง...แพง...
คุณภาพยา...ขึ้นกับราคา...ว่าไง...?
มันถามแล้วมองหน้าผมแบบกวนตีน...

ผมกวนตีนกลับ...เอาเกรดไหนก็ได้...ที่กินแล้วหายน่ะ...
ไม่มี...โรคนี้....ยาไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้...
ถ้าคุณรักษาด้วยยา...คุณจะต้องกินยาไปตลอดชีวิต...

ผมหันไปจ้องหน้ามัน...เพราะสะดุดคำว่า...
ถ้าคุณรักษาด้วยยา...คุณจะต้องกินยาไปตลอดชีวิต...
ผมถามว่า...มันมีวิธีรักษาด้วยวิธีอื่นหรือ...?
มันค่อยๆชายตามามองผมด้วยสายตาดูถูก...อย่างรุนแรง...
แล้วพูดโดยไม่มองหน้าคนฟังว่า...

คนที่เป็นโรคกรดไหลย้อน...เกิดจากนิสัยชั่ว 5 อย่าง...
1. กินข้าวไม่ตรงเวลา...
2. กินอาหารรสจัดมาก...โดยเฉพาะเผ็ดจัด...
3. กินมากเกินไป...
4. กินแล้ว...เข้านอนทันที...
5. เครียดตลอดเวลา...
ถ้าอยากหาย...ไปเปลี่ยนนิสัย...ไม่ต้องกินยา...

ผมกัดฟันแน่น...จ้องหน้ามัน...ทำไมมึงถึงกวนตีนยังงี้วะ...?
ผมคิดในใจ... แล้วค่อยๆเปิดประตู...เดินออกจากร้านไป...

10 วัน...ผ่านไป...ผมไปบรรยายหลายงาน...หลายจังหวัด...
คืนหนึ่งกลับเข้าบ้าน...ดึกแล้ว...
ผ่านร้านขายยา...ไฟยังไม่ปิด...ผมรีบจอดรถ...เดินเข้าไปในร้าน...
เจอไอ้เภสัชกวนตีน...คนเดิมเต็มๆ...มันหันมาเห็นผม...
อ้าว...เป็นไง...โรคกรดไหลย้อน...?

ผมปรี่เข้าประชิดตัว...แล้วยกมือ...พนม...พร้อมก้มหัว...
ขอบพระคุณมากครับ...หายแล้วครับ...
พูดได้แค่นั้น...แล้วก็จุกที่คอ...พูดอะไรต่อไม่ได้อีก...
แล้วรีบเดินออกจากร้าน...
เป็นครั้งแรกในชีวิต...ที่ผมยกมือไหว้คนขายยา...ที่อายุน้อยกว่าผมมาก...

ผมพูดอะไรไม่ออก...แต่ผมเชื่อว่า...ไอ้เภสัชหนุ่มนี่มันรู้...ว่าผมจะพูดอะไร...?
มันสามารถสูบเงินจากผมได้เป็นหมื่น...และทำกำไรมหาศาล...แต่มันไม่ทำ...
มันเลือกที่จะช่วยผม...ให้หายป่วย...โดยไม่ได้เงินสักบาท...

การดำเนินชีวิตของผมตอนนี้...
- กินข้าวตรงเวลา...ทุกมื้อ...
- กินอาหารจืด...ไม่กินรสจัด...เผ็ดจัด...
- กินแค่จานเดียว...เลิก...ไม่ว่าจะอร่อยแค่ไหนก็ตาม...
- มื้อสุดท้าย...กินก่อน 6 โมงเย็น...แล้วไม่กินอะไรอีกเลย...
ไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหนก็ตาม...
- อารมณ์ดีตลอด...ยิ้ม...หัวเราะ...ทำตัวให้มีความสุขทั้งวัน...
ผลที่เกิดตามมาคือ...
- พุงผมหายไป...ไม่มีหน้าท้อง...ไม่อึดอัด...
- สุขภาพดีขึ้น...ไม่เป็นโรคอ้วน...
- บุคลิกภาพดีขึ้น...ความมั่นใจเพิ่มขึ้น...เวลาเข้าสังคม...
- หายใจสะดวก...ไม่แน่นท้องเหมือนก่อน...
- ไม่ง่วงนอน...ไม่อ่อนเพลียเวลาทำงาน...เหมือนก่อน...
- การทำงานและการเคลื่อนไหวร่างกาย...คล่องตัวขึ้น...
ที่สำคัญคือ...
ชีวิตผม...มีความสุขขึ้น...เยอะเลย...

นี่แหละคือเหตุผลที่ผมต้องไหว้...
และผมจะไหว้ไอ้เวรนี่ตลอดชีวิต...ไม่ว่ากูจะเจอมึงที่ไหน...

สิ่งมีค่าที่สุดที่มันมอบให้ผมก็คือ...
โรคภัยไข้เจ็บ...90 %...ของมึงเนี่ย...ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค...
แต่เกิดจากเชื้อเลว...ในการดำเนินชีวิตของมึงทั้งนั้น...

ดำเนินชีวิตให้ถูกต้อง...ตามธรรมชาติ...มีสุขนิสัยที่ดี...
คุณจะไม่ป่วย...ไม่เป็นโรค...ไม่ต้องไปหาหมอ...
หมอและยา...เขามีไว้รักษาและขาย...ให้คนที่โง่...เท่านั้น...

เลิกโง่กันเถอะเพื่อน...
เพื่อนรุ่นน้องของผมหายไปนานมาก...เกือบปี...
ผมคิดถึง...อยากรู้ข่าวคราว...จึงโทรไปหา...นัดกินข้าว...

เพื่อนเล่าให้ฟังว่า...หลังจากรักษาจนหายแล้ว...
เจ้านายเก่ารู้ว่า...กลับมาจากต่างประเทศแล้ว...หายแล้ว...
ก็ชวนกลับไปทำงานที่เดิม...เงินเดือน 6 หลัก...มันยากที่จะปฏิเสธ...

ทำอยู่ได้ 6-7 เดือน...อาการกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก...
และเที่ยวนี้...ดูว่ามันรุนแรงกว่าเดิมมาก...

หลังจากวันนั้น...ผมก็ไม่ได้ข่าวคราวจากเพื่อนคนนี้อีกเลย...

ส่วนผม...ทำตัวตามที่ไอ้หมอตี๋กวนตีนนั่นบอก...
เปลี่ยนเอานิสัยเลวๆในการดำเนินชีวิตออก...
โรคกรดไหลย้อน...ไม่มีอาการ...โรคซึมเศร้าดีขึ้น...จนเริ่มเขียนหนังสือได้...
โรคเครียดเบาบางลงมาก...ยิ้ม...หัวเราะ...มีความสุขกับการทำงานเกือบทั้งวัน...

คุณภาพชีวิตที่ดีๆของผม...กลับคืนมาแล้ว...เยอะมากด้วย...
จึงอยากจะถือโอกาสนี้...บอกกับเพื่อนๆทุกคนว่า...
เลิกโง่กันเถอะเพื่อน...



Thursday, July 17, 2014

โรคกระเพาะอาหาร: ตอนที่ 4/4 รักษาแผลในกระเพาะอาหารด้วยตำรับสมุนไพร

            ปัจจุบัน แพทย์ทางเลือกเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในวงการสุขภาพทั่วโลก เนื่องจากเทคโนโลยี และงานวิจัยที่กว้างขวางมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในแพทย์ทางเลือกที่เป็นภูมิปัญญาของไทยคือ การใช้สมุนไพรไทยในการรักษาโรคต่างๆ อีกทั้งการรักษาด้วยสมุนไพร สามารถรักษาอาการได้ถึงต้นเหตุ นอกจากนี้การทานยาแผนปัจจุบันซึ่งเป็นยาเคมีสังเคราะห์เป็นเวลานานๆติดต่อกัน ส่งผลเสียต่อตับโดยตรงซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมทุกวันนี้คนจึงหันมาบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพและมองหาแพทย์ทางเลือกมากขึ้น

            สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหาร ขอแนะนำ ยาขับลมตราเพชรแดง ซึ่งเป็นตำรับยาสมุนไพรแคปซูล จากสมุนไพร 4 ชนิดคือ กระเพราแดง ขิงแก่ ตะไคร้ และเปล้าตะวัน โดยสมุนไพรตำรับนี้ นอกจากจะช่วยขับลม บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อแล้ว หากทานต่อเนื่องเป็นประจำ จะช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร สร้างเนื้อเยื่อในส่วนที่ถูกทำลาย รวมถึงปรับสมดุลให้กับระบบทางเดินอาหาร รบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายอีกด้วย ซึ่งหากต้องการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ยาขับลมตราเพชรแดง สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.reddiamondherb.com/product/ya-kub-lom/


            ท้ายสุดนี้ การรักษาที่ดีที่สุดเริ่มต้นจากตัวเรา ดังสุภาษิตที่ว่าหมอที่ดีที่สุด ก็คือตัวเรา หากเราไม่ปรับพฤติกรรมการทานอาหารหรือพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ ไม่ว่ายาดีขนาดไหนหรือราคาแพงเท่าใด ก็ไม่อาจทำให้เราหายจากอาการโรคภัยไข้เจ็บได้ สำหรับผู้ที่ไม่อยากให้มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร แค่เราทานอาหารให้ตรงเวลา ทานอาหารครบทุกมื้อ และทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพียงเท่านี้เราก็จะได้มีสุขภาพดีง่ายๆไม่ต้องพึ่งอาหารเสริมใดๆ



เรียบเรียงข้อมูลโดย www.reddiamondherb.com

Wednesday, July 9, 2014

โรคกระเพาะอาหาร: ตอนที่ 3/4 การวินิจฉัยโรคกระเพาะอาหาร

เราสามารถสังเกตุอาการเบื้องต้นได้ด้วยตนเองจากการดูจากอาการปวดท้อง เนื่องจากอาการปวดท้องนั่นบ่งบอกได้หลายอาการ ไม่ว่าจะเป็น โรคกระเพาะอาหาร ปวดท้องจากอาหารเป็นพิษ



ตำแหน่ง หรือบริเวณที่เริ่มปวด: เช่น บริเวณลิ้นปี่ รอบๆ สะดือ หน้าท้องส่วนบน ใต้ชายโครงขวา หรือซ้าย ท้องน้อยตรงกลาง เหนือหัวเหน่า หรือท้องน้อยขวา หรือซ้าย และเมื่อเวลาผ่านไปอาการปวดเปลี่ยนหรือ ย้ายที่หรือไม่
-          
                       - ปวดท้องมานานเท่าไร / ความถี่ในการปวดท้อง: ภายในไม่กี่ชั่วโมง 2-3 วัน หรือเป็นเรื้อรังมานาน

-                   - ลักษณะของอาการปวดเป็นแบบใด: ปวดเป็นพักๆ เดี๋ยวปวดมากเดี๋ยวเบาลง หรือปวดตลอดเวลา ไม่มีหยุดพักเลย และปวดแบบแสบร้อน ปวดเหมือนถูกแทง ปวดตื้อๆ หรือปวดถ่วงๆ เป็นต้น

-                   - มีอาการอื่นที่เกิดร่วมด้วยหรือไม่: เช่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียนท้องผูก ท้องเสีย เป็นไข้ เหงื่อแตก หน้ามืดเป็นลม

-                - สาเหตุที่ทำให้ปวดมากขึ้นคืออะไร: เช่น การอาหาร การถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ การหายใจแรงๆ ไอหรือจาม การเคลื่อนไหว ท่านั่งหรือท่านอน

-                   - สาเหตุที่ทำให้ปวดน้อยลงคืออะไร: เช่น อาเจียนแล้วดีขึ้น การอยู่นิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหวท่านั่งหรือท่านอน การงอตัว อาหาร หรือยาบางชนิดเช่น ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร

อย่างไรก็ตาม หากพบว่าปวดจนทนไม่ไหว หรือไม่แน่ใจอาการ หรือปวดท้องที่คงอยู่นานกว่า 4 ชั่วโมง ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติม ทั้งนี้เนื่องจากแผลในกระเพาะอาหาร เกิดจากการสะสมมาเป็นเวลานาน บางรายอาจไม่ออกอาการ บางรายอาจมีแค่รอยแผลแดงๆ และบางรายอาจมีอาการแพ้ ซึ่งการวินิจฉัยโรคแผลในกระเพาะอาหารมี 2 วิธีหลักๆคือ

1.       การเอ็กซเรย์กลืนแป้ง (Upper GI Study) ซึ่งแป้งที่ว่านี้คือ สารทึบรังสี (Barium Salfate) ซึ่งหากตรวจกระเพาะหรือลำไส้เล็ก จะต้องดื่มด้วยหลอดดูด เมื่อกลืนจนได้ปริมาณจึงตรวจด้วยการเอ็กซเรย์ แต่หากตรวจลำไส้ใหญ่ จะใช้วิธีสวนสารทึบรังสีเข้าทางทวารหนัก ซึ่งสารนี้ก็จะถูกขับถ่ายออกทางทวารหนักตามปกติ (ไม่ได้ละลายหายไปหรือดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย) แต่เนื่องจากสารนี้อาจทำให้ท้องผูกได้ ผู้ตรวจจึงควรดื่มน้ำมากๆ รับประทานผักผลไม้มากๆ เพื่อให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น วิธีนี้ทำได้ง่าย ราคาถูก แต่ข้อเสียคือไม่ละเอียดพอและไม่สามารถนำชื้นเนื้อไปตรวจเพิ่มเติมได้
2.       การ ส่องกล้องกระเพาะอาหาร (Gastroscopy) เป็นวิธีการตรวจที่ละเอียดสามารถมองเห็นรายละเอียดของกระเพาะอาหารได้ชัดเจน และยังสามารถนำเนื้อเยื่อไปตรวจเพิ่มเติมได้ ปัจจุบันการส่องกล้องกระเพาะอาหารเป็นวิธีที่นิยมและทำได้อย่างปลอดภัย ในผู้ป่วยบางรายอาจต้องใช้ยานอนหลับร่วมด้วย
3.       การตรวจเชื้อ Helicobactor Pylori ซึ่งมีหลายวิธี เช่น การตรวจเลือดหาภูมิคุ้มกันติดเชื้อ, การนำเนื้อเยื่อมาตรวจหาเชื้อ แต่วิธีที่สะดวก แม่นยำและรวดเร็ว และนิยมใช้ในปัจจุบันคือ การเป่าลมหายใจหรือที่เรียกว่า Urea Breath test C-14

ข้อมูลอ้างอิง: รพ. Samitivej, Siamca.com, Z Beauty and Health, รพ.รามคำแหง
เรียบเรียงข้อมูลโดย www.reddiamondherb.com